วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ครอบครัว


เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพื่อนบ้านที่ฉันรู้จักคนนี้ หล่อนเป็นผู้หญิงประเภท แก่ เป็นโสด อยู่กับหมาต่างลูกและผัว ซึ่งดูเหมือนว่ากำลังจะมีโครงการเลี้ยงอาหารเย็นให้หมาจรจัดในซอยที่เธออยู่ในไม่ช้า หล่อนเคยบอกกับฉันว่า อยากแต่งงานมีผัวเลี้ยงลูก แต่ด้วยความเป็นลูกสาวคนโต และน้องชายก็แต่งงานแยกไปอยู่บ้านของตัวเอง ในบ้านจึงเหลือกันแค่ 4 คน เมื่อรวมพ่อแม่และน้าสาวซึ่งแก่เฒ่าเต็มที ดังนั้นเวลาทั้งหมดที่หล่อนจะใช้จับผู้ชายมาทำพ่อของลูก จึงถูกแปลงให้เป็นเวลาดูแลพ่อแม่และน้า ไม่สามารถตระเวนราตรี หรือไปสังสรรค์ได้ พอเลิกงานก็ต้องรีบกลับบ้าน เสาร์อาทิตย์ก็อยู่กับพ่อแม่พาไปทานข้าวเย็นบ้างหรือพาไปหาหมอตามที่นัดไว้บ้าง ชีวิตหล่อนวนเวียนอยู่อย่างนี้จนกระทั่งพ่อแม่และน้าตายลง


คราวนี้หล่อนสามารถหาเวลาสืบพันธุ์ได้แล้ว แต่เมื่อถึงเวลานั้นหล่อนก็พบว่าตัวเองหมดวัยเจริญพันธุ์เสียแล้ว


ฤดูร้อนที่ผ่านมา ฉันพบหล่อนที่สัตว์แพทย์ใกล้บ้าน ตอนฉันพาหมาไปฉีดยา เราจึงคุยกันตามประสาคนรักหมาแต่คนรักไม่มี หล่อนบอกว่ามีความสุขมากที่อยู่กับลูกๆของหล่อน


ลูกๆของหล่อนคือชิทสุที่หล่อนกำลังอุ้มและรวมไปถึงลูกอีกหลายตัวและหลายพันธุ์ต่างๆรวมกันที่อยู่ในบ้านเธอ


หลังจากพาหมาไปหาหมอ ฉันไปคลายร้อนที่สระว่ายน้ำคอนโดเพื่อนที่ซื้อไว้เป็นรังรักกับเกย์หนุ่มที่เจอกันในผับ เพื่อนฉันกับผัวอยู่กินด้วยกันจนเกือบครบทศวรรษ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่หาไม่ได้ในความสัมพันธ์ของฉัน


ทั้งคู่ต่างมีแหวนที่เหมือนกันคนละวงที่นิ้วนางข้างซ้าย เปิดบัญชีร่วมกัน ทำนิติกรรมร่วมกัน ทำประกันชีวิตให้แก่กัน พวกเขาอยู่กันอย่างอบอุ่นและมีความสุขกับสถานภาพที่พวกเขานิยามว่า “ครอบครัว” แม้ว่าไม่เคยเดินไปจดทะเบียนที่อำเภอหรือมีลูกมีเต้า แต่ทั้งคุ่ไม่เคยรู้สึกขาดพร่องหรือเป็นปมด้อยแต่อย่างใด


คำว่าครอบครัวของทั้งเพื่อนเกย์ และเพื่อนบ้านของฉันมันจึงไม่ใช่ “ครอบครัว” อย่างในตามแบบฉบับตำราสังคมศึกษาที่ฉันเคยอ่าน ไม่ได้เป็นครอบครัวแบบสำเร็จรูปที่จะต้องมี คุณพ่อโอบอ้อม คุณแม่อารี อยู่กันพร้อมหน้าเพื่อทำหน้าที่ผลิตสมาชิกในครอบครัวที่เชื่อฟังคำสั่งสอนให้เป็นเด็กดีมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน และจะต้องเป็นความสัมพันธ์ที่มีบรรยากาศอบอุ่น ( ทั้งที่ภูมิประเทศอยู่ในเขตร้อนจะตายชัก ) กรุ่นไอรัก เพื่อให้ลูกอันเป็นที่ฝากความหวังของทั้งชาติไม่มีปมด้อย เป็นเด็กปัญหา เล่นยา มั่วเซ็กซ์ ติดเกมส์ขลุกอยู่แต่ร้านอินเตอร์เนท หรือวันๆเอาแต่เดินเที่ยวห้างสรรพสินค้า ตระเวนราตรี


คำนิยามของสถาบันครอบครัวในอุดมคติ ที่พ่อแม่ต้องมีหน้าที่ดูแลลูกด้วยความรักใคร่ อบรมสั่งสอนด้วยความเมตตา พ่อแม่ต้องสภาวะทางอารมณ์มั่นคง ไม่แปรปรวน ไม่แสดงความรุนแรง ฉันว่ามันสร้างปัญหามากกว่าการเลิกราอหย่าร้างหรือการเป็นเด็กกำพร้าเสียอีก


เพราะหน้าที่สำคัญของพ่อแม่ที่ว่าต้องลี้ยงลูกด้วยความรักนั้น เป็นการนำ2สิ่งที่แตกต่างกันคนละขั้วมาผสมเป็นสิ่งเดียวกันเหมือนคลุกแกงเลียงกับสลิ่มมาเป็นอาหาร


จับเอาความรักที่เป็นอารมณ์ ซึ่งโดยปรกติไม่คงที่ เป็นอะไรที่ตามใจฉัน สามารถขึ้นลงได้ตลอดแล้วแต่สถานการณ์ ตอนนี้รักหมา วันนี้รักตัวเอง เวลานี้รักชอปปิ้ง คืนนี้รักเที่ยว แปลงให้เป็นหน้าที่ ซึ่งเป็นอะไรที่จะต้อง ”ทำ” ปฏิเสธหรือเกี่ยงไม่ได้ จำต้องรักลูกรักผัวก่อนอย่างอื่นรวมไปถึงตัวเอง


และสิ่งที่ได้จากหน้าที่ของครอบครัวในตำราก็คือ พ่อแม่ที่ชอบพูดว่า “เลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ ไม่หวังอะไรจากลูกขอให้ลูกเป็นคนดีก็พอ” นั้น เพ้อเจ้อสิ้นดี


เพราะหน้าที่ของพ่อแม่ก็เพื่อทำให้สมาชิกใหม่ของครอบครัวเป็นไปตามความคาดหวังของสังคมซึ่งร่วมถึงพ่อแม่ด้วยในฐานะสัตว์สังคม ถ้าพ่อแม่ไม่ได้หวังอะไร แล้วทำไมต้องพาลูกไปหาจิตแพทย์ทันทีที่พบว่าลูกชอบเพศเดียวกัน และทำไมต้องกลัดกลุ้มเมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดรักสุดหวงของตนกำลังหลงรักกับวินมอเตอร์ไซค์ชาวกาฬสินธุ์


ทันทีที่ผลผลิตของตนไม่ตรงอย่างที่คาดหวังพ่อแม่หลายคู่หลายคนก็คิดว่าตนเป็นบุพการีสอบตก แบกความรู้สึกผิดกลับมาโทษตัวเองว่าเลี้ยงแกไม่ดีแต่แรกเอง บ้างก็ว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ใช้ความรุนแรง ไม่มีเวลาให้ ไม่ยอมอยู่พร้อมหน้า ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นการโบ้ยความผิดของรัฐ ที่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาสังคมเรื่องอะไร เป็นต้องหันมาโทษหน่วยเล็กๆของสังคมที่ชื่อครอบครัวอยู่ร่ำไป แม้ว่าจะเป็นปัญหาระดับมหภาคก็ตาม ราวกับว่าโลกนี้ไม่เคยมีการก่ออาชญากรรมมาก่อน แล้วพ่อแม่มันสังเคราะห์แสงได้เองเลยไม่ต้องออกไปทำมาหากิน วันๆนึงนั่งให้นมป้อนข้าวลูกกิน


แล้วที่แย่กว่านั้นรัฐไม่เคยเลิกล้มความพยายามในการนำเอาอารมณ์มาแปรสภาพให้เป็นหน้าที่เพื่อผลิตสมาชิกใหม่ของสังคม


อย่างน้อยที่สุด ประการแรกของหน้าที่ของสถาบันครอบครัวที่บัญญัติในตำราเรียนข้อแรกก็คือ การผลิตสมาชิกใหม่ให้สังคม ซึ่งเป็นที่น่าสับสนว่าการปี้ๆเอาๆกันถูกสถาปนาเป็นหน้าที่ตั้งแต่เมื่อไรกัน ถ้ามันไม่เกิดอารมณ์มันจะเอากันไหม แล้วฉันอยากจะสารภาพว่า


“ที่กูเอากับผัวกูทุกวันเนี่ยะ เพราะกูเงี่ยน ไม่ได้คิดถึงการปฏิบัติหน้าที่ต่อสถาบันเลย”


ดังนั้นความหมายของครอบครัวจึงบรรจุแต่เรื่องของหญิงรักชาย ชายรักหญิง ที่มีลูกได้ ( ไม่งั้นเรียกว่าครอบครัวไม่สมบูรณ์ ) แต่ถึงกระนั้นก็ต้องมีลูกหลังเรียนจบทำการทำงาน มิฉะนั้นไม่เรียกว่าเป็นครอบครัว แต่เรียกว่า “ใจแตก”

โดยการนิยามประเภทนี้ทำให้ คู่เกย์ คู่เลสเบี้ยน หญิงแก่ที่อยู่กับหมา ปลาสนาการจากความหมายขอสถาบันครอบครัว เพราะไม่สามารถจดทะเบียนสมรสหรือและรับรองเป็นลูกได้ตามกฎหมาย รวมไปถึงไม่สามารถแจ้งเกิดภายใน 15 วันได้ว่าอีด่างมันตกลูกจำนวนคอกละกี่ตัว


ขณะที่วันครอบครัวของทุกปีที่รัฐกำหนด หลายคนต่างกลับบ้านกลับช่องภูมิลำเนาเดิมเพื่อไปอยู่กับบุคคลที่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ไปอยู่กับ”ครอบครัว”ที่รัฐให้ความหมาย


การพาหมาไปหาหมอเพื่อฉีดยากันเชื้อบ้าในวันครอบครัวจึงนอกเหนือความเข้าใจการอยู่กับครอบครัวในแบบที่รัฐจำกัดความ การจูงมือไปทำบุญตอนเช้าและไปเล่นน้ำที่อตก.ตอนดึกของคู่เกย์จึงไม่ใช่กิจกรรมประสาครอบครัวในวันครอบครัวตามที่สังคมคาดหวัง


เพราะครอบครัวมันโยงถึงความสัมพันธ์ของพลเมืองที่มีต่อรัฐ และหน้าที่ของบุคคลที่มีต่อสังคม ไม่ใช่เรื่องของปัจเจกบุคคลกับความต้องการ

ดังนั้นฉันจึงกลับมาคิดได้ว่า อันที่จริงครอบครัวมันก็เป็นเรื่องของหน้าที่นี่หว่า...