วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

คำสารภาพของคนเคยมีรัก


แล้วเจ้าหญิงก็ตื่นจากบรรทมอันยาวนาน เมื่อเจ้าชายจุมพิต หลังจากนั้นทั้ง 2 จึงเข้าวิวาห์และครองรักกันตราบนานเท่านาน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนบางคนต่อให้นอนเฉยๆก็มีผัวได้ โดยไม่ต้องลงมือลงแรงอะไรอะไร
ต่างกับฉัน ไม่ว่าจะ ให้เพื่อนหาให้ แชทในเนท แต่งตัวยั่ว ทำตัวแอ๊บแบ๊ว แกล้งเมาไปจนถึงมอมเหล้าผู้ชาย ก็ยังหาไม่ได้อยู่ดี นานๆทีจะมีคนหลังเข้ามา แต่อยู่ได้ไม่นานก็หลุดออกไป


...การมีคนรักได้สักคนมันยากเหลือเกิน แต่กว่าจะมีคนรักดีๆมันยิ่งยากกว่า…


แค่คนที่พอใจและพร้อมจะให้ฉันหนุนนอนในอ้อมกอดและเต็มใจรับหัวใจและกายฉันอย่างไม่อึดอัดใจ คนที่ฉันจะพูดคุยได้ทุกเรื่อง ยอมรับและให้อภัยฉันทั้งข้อดีและข้อเสีย บนโลกที่หนาแน่นหลายล้านคน แค่คนๆเดียวมันไม่มีเลยหรือ


จะมีใครสักคนบ้างที่รู้ว่า หลายคืนที่ฉันต้องรู้สึกโดดเดี่ยวใต้ลูกบอลดิสโก้กับผู้คนคลาคล่ำและเสียงเพลงอึกทึก หลายค่ำที่ฉันหลับไปพร้อมกับความว้าเหว่ เดียวดาย หลายครั้งที่เบื้องหลังรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมันคือหยาดน้ำตา


ฉันดูเหมือนคนปากกล้า ร้ายกาจ บ้าบิ่น เพี้ยน เจ้าทฤษฎี เข็มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่แคร์ใครไร้ซึ่งความเมตตาสงสาร กะล่อนเจ้าชู้ ตลกโปกฮา ฉันสารภาพว่าแท้จริงมันคือเครื่องรางของขลัง ชุดเกราะและโล่เหล็ก เพื่อปกป้องไม่ให้ความอ่อนแอ ขลาดกลัว ระแวง อ่อนไหว และเต็มไปด้วยความรู้สึกและอารมณ์ มันรั่วไหลออกมาให้ใครเห็น


ฉันเฝ้าใฝ่ในรักอันเหลือเชื่อ ที่เหมือนในนิยาย ในละครที่เคยหลงใหลได้ปลื้มชวนยิ้มกับความรักที่ตัวละครคู่หนึ่งมอบให้แก่กัน แต่ทันทีที่มีรัก ฉันกลับรักษามันไว้ไม่อยู่ทุกที ไม่ว่าจะจบลงด้วยเหตุผลใดฉันไม่เคยหลีกหนีความรู้สึกได้เลยทุกที ในหัวใจ มันว่างเปล่าแต่หนักหน่วงคอยถ่วงให้ความรู้สึกทุกอย่างดูหดหู่ ในหัวสมองมันวนเวียนแต่เรื่องเดิมๆเก่าๆเรื่องของเขา ข่มตาให้หลับไม่ลงสักที แต่ทันทีที่ตื่นเรื่องเขาก็เข้ามาในหัวทันทีให้คิดต่อ วนไปวนมา

ทุกครั้งหัวใจช้ำจนมันชา พาลคิดไปว่าคงรักใครไม่ได้อีกต่อไป เฝ้าบอกตัวเองว่า “ พอกันที ” แต่สุดท้ายก็เผลอมีความรักอีกครั้งให้หัวใจชุ่มฉ่ำอีกที แต่แล้วในที่สุดมันก็วกกลับมาเหมือนจุดเริ่มต้น... อยู่ตัวคนเดียวและความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นแต่ไม่เคยห่างกาย


เป็นแบบนี้ทุกทีทุกครั้งทุกคน ซ้ำไปซ้ำมา แต่แปลกที่ไม่เคยเข็ด... ทว่าไม่เคยชิน


ฉันก็เหมือนกับใครๆหลายคนที่ไม่อยากขาดรัก เพราะมันดูน่าเศร้า น่าหดหู่ แม้ว่าจะไม่หม่นหมองชวนน่าเศร้าใจเท่ากับตอนที่ต้องเลิกรากันที่ทั้งเจ็บปวดและกัดกร่อนหัวใจ แต่ก็ดูเหมือนว่าทุกคนพร้อมที่จะยอมเอาตัวและหัวใจเข้าเสี่ยงเพื่อไม่ต้องขาดรัก


ใครหลายๆคนต่างก็ไปไหว้พระตรีมูรติที่เซ็นทรัลเวิร์ลด์ เพราะว่ากันว่าจะนำมาซึ่งความรัก
ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง และสามารถประทานคนรักได้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นช่วยสาปให้ฉันรักใครไม่เป็นด้วยเถอะ


เพราะทุกครั้งเช่นกันที่ความรักสลัดฉันออกจากมัน มันเจ็บปวด ทรมาน เหมือนถูกเหวี่ยงออกจากเครื่องหมุน มันทั้งเสะบักสะบอม และทรงตัวไม่เคยอยู่ แม้ว่าทุกครั้งที่มีความรักมันทำให้ฉันรู้สึกเด็กลง กลับไปสู่วันเยาว์อีกครั้ง ขณะเดียวกันก็รู้สึกมั่นใจเหมือนเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เพราะคงเข้าใจมาตลอดว่าความรักเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แต่มันก็เป็นได้ที่ไม่คุ้มเสีย


ความรักทำให้ฉันต้องหนาวสั่นมากแค่ไหน หัวใจฉันก็ยิ่งเหน็บมากแค่นั้น ยิ่งชอกช้ำรักมากเท่าไรหัวใจยิ่งด้านช้าเท่ากัน แม้จะทำให้เข็มแข็งมากขึ้นเพียงใดมันก็หยาบกร้านและถูกกัดกร่อนมากพอกัน

ลาก่อน...ความรัก มึงไปสิงหัวใจคนอื่นซะ ก่อนที่มึงจะแตกสลายไปพร้อมกะหัวใจกู อีห่าลาก