วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ปรีดี พนมยงค์ : วันนี้ วันวาน และวันต่อไปที่จะไม่เหมือนเดิม


( สารภาพไว้ ณ ตรงนี้ว่า รีบเขียนมากเพื่อให้ได้ลงบลอคในวันปรีดีพอดี หลังจากไปร่วมฟังอภิปรายมาก่อนวันปรีดี 1 วัน เพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้สถาปนามหาลัยที่ฉันรักที่สุด เนื้อหาในนี้ส่วนใหญ่ฉันจำขี้ปากนักวิชาการมามากกว่าที่จะมาสติปัญญาอันน้อยนิดของฉันเอง)

ดูเหมือนว่าคุณปรีดี และคุณพูนศุข พนมยงค์ จะไม่ได้ลาโลกของเราแล้วไปอยู่ในเฉพาะปรโลก แต่ยังไปอยู่ในโลกไซเบอร์ ซึ่งวันเปิดตัวเวปไซต์ pridi-phoonsuk.org ที่ผ่านมา ฉันมีโอกาส(อันที่จริงเรียกว่าหาโอกาส เพราะฉันโดดงานไป) ได้ไปร่วมงานและฟังอภิปราย ซึ่งฉันยังไม่หายแฮงค์เหล้าแถมตื่นเกือบเที่ยงจึงต้องกุลีกุจอไปให้ทันฟังอภิปรายโดยมีเพียง บุหรี่และกาแฟประทังชีวิตตลอดบ่าย ร้ายไปกว่านั้นฉันดูเหมือนว่าจะนุ่งshotpants อยู่คนเดียว

สารภาพไว้ตรงนี้เลยว่า แม้ว่าจะเป็นศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ ป.ตรี และศิษย์ ปัจจุบัน ป.โทก็ตาม (ซึ่งยังไม่จบสักที) ฉันรู้จัก ปรีดี พนมยงค์ น้อยมากและเป็นนามธรรมว่า เป็น 1 ในคณะราษฎร เป็นเหยื่อการเมืองของชนชั้นเจ้า และ เป็นผู้สถาปนามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ( ซึ่งชื่อธรรมศาสตร์(และการเมืองในขณะนั้น) มาจากวิชาที่ปรีดี ลงทะเบียนเมื่อยังเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นวิชาที่ไม่มีใครเค้าลงทะเบียนกันแล้ว)

....อันที่จริง ฉันรู้จักนกปรีดีมากกว่าเสียด้วยซ้ำ....

แต่จะพูดแล้ว นักศึกษาธรรมศาสตร์ และน่าจะรวมคนอื่นๆด้วยรู้จักปรีดีต่างกันไป แตกต่างกันในแต่ละยุคสมัย เช่นเดียวกับภาพลักษณ์ของปรีดีในตะละยุคสมัยตามบริบททางการเมือง ในยุคที่จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์ ซึ่งน่าจะเป็นเวลาเดียวกับยุคมืดของธรรมศาสตร์ในการทำความรู้จักกับปรีดี พนมยงค์ เพราะตอนนั้นนักศึกษาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครก่อตั้งมหาลัย คุณชาญวิทย์ เกษตรศิริ ยังคิดว่าคนสถาปนาธรรมศาสตร์ ถ้าไม่ใช่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพี บลาๆๆ ราชบุรีดิเรกฤทธิ์สักอย่าง ไม่ก็พระเจ้าบรมวงศ์เธอ บลาๆๆ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

เหมือนที่ คุณศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ได้พูดในงานว่า ตั้งแต่ทศวรรษ 90 ปรีดี พนมยงค์ ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้งอย่างชัดเจนและมากขึ้น เพียงแต่ในฐานะ คุณตาใจดี คนก่อตั้งธรรมศาสตร์และการเมือง คนรักชาติคนรักเจ้า ผู้เรียกร้องเอกราช

พูดง่ายๆคือ พอปรีดีตาย ไม่เพียงจะกลับมาดังอีกครั้งและมากขึ้น (เช่นเดียวกับคุณพูนศุข ที่ดังขึ้นทันทีที่ตายลง และถูกโยงกับการเมืองมากขึ้น ทั้งๆที่ปรีดีไม่ได้นำเรื่องการเมืองมาเล่าในบ้านมากนัก) ไม่เพียงแต่ระดับประเทศอย่าง รัฐบุรุษอาวุโส แต่ในระดับ international ฐานะบุคคลสำคัญของโลกโดยองค์กรยูเนสโก

ว่าแต่ยูเนสโก รู้อะไรเกี่ยวกับ ปรีดี พนมยงค์ บ้าง??

ดูเหมือนว่าภาพใหม่ของปรีดีดูจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทางการเมือง “แบบไทยๆ” มากขึ้น มากกว่าจะเป็นบุคคลของหนึ่งในคณะราษฎร นักสังคมนิยม หนามยอกพระอุระของชนชั้นเจ้า รวมไปถึง แพะในคดีในหลวงอานันท์สวรรคต ทำให้ "ฆาตรกร" กลายไปเป็นคุณตาใจดีภายในหนึ่งทศวรรษ จนกระทั้งในทศวรรษต่อๆมา คุณตาใจดีถูกปลุกขึ้นมาให้สวมเสื้อแดง แล้วจับไปเปรียบเปรยกับทักษิณ ชินวัตรบ่อยๆในฐานะ “คนดีที่ไม่มีที่อยู่” ?? ขณะที่เมื่อเช้านี้ ปรีดีถูกพูดอีกครั้งในวันเกิดตัวเองโดยคนขวาจัด ด้วยภาพลักษณ์ของผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กล่าวอีกครั้ง อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข !! แต่ไม่ว่าจะกล่าวสักกี่ครั้งก็ไม่มี พระยาพหลพลพยุหเสนา !!! ฉันได้แต่นั่งลุ้นว่าต่อๆไป ปรีดีจะถูกพูดถึงยังไง ด้วยภาพลักษณ์แบบไหน

...บางที ในทศวรรษถัดไป ปรีดี พนมยงค์ อาจเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะ 1 ใน 50 หนุ่มsexyมีครอบครัว (ราศีพฤษภ) ที่ตายไปแล้วในนิตยสาร cleo...