“โถ... อายุยังน้อยไม่น่าคิดสั้นเลย”
“เค้าว่า การฆ่าตัวตาย เป็นบาปหนากว่าฆ่าคนอื่นอีกนะ”
“ขนาดหมาขี้เรื้อนมันยังไม่ฆ่าตัวตายเลย”
“ถูกค่ะ... หมาขี้เรื้อนมันจะไปฆ่าตัวตายได้ไง ขนาดหายามาทาให้ขนงอกมันยังทำไม่เป็นเลย นับประสาอะไรกับถือถือมีดมาปาดขาหน้าตัวเอง”
ฉันแอบเห็นด้วยในใจขณะนอนดูรายการข่าวพลางอ่าน sms ที่คนทางบ้านส่งไปร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง โดดตึกที่คณะฆ่าตัวตาย เพราะเครียดเรื่องคะแนนเกรดทีไม่ได้อย่างที่ตนหวัง ซึ่งดูเหมือนว่ากลายเป็น”ปัญหาสังคม”
ยิ่งวัยรุ่นฆ่าตัวตายแล้วยิ่งถือว่าเป็นปัญหาสังคม เพราะว่ารัฐอุตส่าห์ลงทุนด้วยสวัสดิการต่างๆมากมายให้กับนักเรียนนักศึกษา เพียงเพื่อหวังว่าการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ทรัพยากรมนุษย์เติบโตมีอาชีพดีๆรายได้สูงๆ สามารถจ่ายภาษีให้รัฐในอัตรามากๆได้ แต่ไม่ทันที่รัฐจะได้ผลกำไร ยังไม่ถอนทุนด้วยซ้ำก็ดันมาชิงตายเสียก่อน
อัตวินิบาตกรรมจึงเป็นบาปหนาเพราะทำให้รัฐขาดทุนและผิดหวัง นอกเสียจากว่าเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อรับใช้รัฐ ที่ซามูไรปกป้องความลับด้วยการฮาราคีรี คว้านท้องตนเองจนไส้ขาดจะได้ไม่ต้องไปสาวไส้ให้กาที่ไหนกิน เช่นเดียวกับสโลแกนของลูกเสือ “เสียชีพอย่าเสียสัตย์” ที่ประกาศว่า กูยอมกลืนน้ำยาล้างห้องน้ำยังดีเสียกว่ากลืนน้ำลายตัวเอง ( ที่เคยปฏิญาณไว้ว่าจะจงรักภักดี ) เพราะถือว่าเป็นการพลีชีพ เสียสละเลือดเนื้อ เพื่อชาติและอุดมการณ์
ดังนั้นการฆ่าตัวตายที่ไม่ถือว่าบาปก็คือ การฆ่าตัวตายถวายรัฐ
รัฐจึงถือว่าเป็นผู้ที่สามารถกำหนดความตายให้พลเมืองได้ เพราะเมื่อเราตายจึงต้องมีใครสักคนไปแจ้งอำเภอเพื่อรับการยินยอมจากรัฐในมรณบัตรเสียก่อนว่าตายจริงๆ
รัฐกับพระผู้เป็นเจ้าและเจ้ากรรมนายเวรจึงมีฟังค์ชั่นเดียวกัน ต่างก็ทำหน้าที่ควบคุมกำกับมนุษย์ ลิขิตชะตาชีวิต หรือให้มนุษย์เกิดมาก็เพราะชดใช้เวร และตายไปตามกฎแห่งกรรม
...ดังนั้น เวลาเสียภาษีแต่ละปีเราจึงรู้สึกเป็นเวรที่ต้องทำมากกว่าเป็นความสมัครใจ…
ด้วยเหตุนี้การที่ใครคนหนึ่งทำอัตวินิบาตกรรมนั้น จึงเป็นการท้าทายและปฏิเสธสถาบันศาสนา แล้วประกาศกร้าวเป็นเพลงป้าเบิร์ดว่า “นี่คือชีวิตลิขิตของเรา” หรือพูดให้เก๋หน่อยก็คือ ฉันมี “self-determine” ที่จะอยู่หรือตาย ไม่ว่าด้วยเหตุผลเพราะติดหนี้ เกรดตก อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมินหรือจะอะไรก็ช่าง
เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆก็เลือกที่จะทำตามความต้องการความฝันใฝ่ อย่างที่เด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ล่าตามฝันด้วยการสมัครเข้าโรงเรียนกินนอนสอนร้องเพลง ให้คนทางบ้านได้โหวตได้เชียร์ได้ชม แสดงความเห็นต่างๆนานาตลอด24ชั่วโมง
หลังจากดูข่าวและอ่านข้อความแสดงความคิดเห็นใต้รายการมานาน จนนึกไปว่าเป็นรายการเรียลลีตี้ Academy Fatasia ฉันก็อดไม่ได้ที่ส่งsmsไปแสดงความคิดเห็นบ้าง
“ บอกไปแต่แรกแล้ว ว่าอย่าลงโทษอาจารย์หนุ่มที่ให้นักศึกษาหญิงอมนกเขาเพื่อแลกเกรด ...ก็ไม่เชื่อ ”